ดูแลสวนข้างบ้านต้อนรับฤดูฝน

ฤดูฝนมาเยือนอีกครั้ง หลายๆ คนชื่นชอบฤดูนี้เป็นพิเศษ เพราะมีบรรยากาศสดชื่นเย็นสบาย ฤดูเริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมถึงประมาณกลางเดือนตุลาคม (ประมาณ 5 เดือน) เกิดจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นลมชื้นพัดปกคลุมประเทศไทย

ช่วงหน้าฝนต้นไม้ในสวนข้างบ้านจะได้รับน้ำอย่างเต็มที่ ทําให้เจ้าของไม่ต้องเสียเวลารดน้ำเองทุกวัน แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ ความเฉอะแฉะที่มาพร้อมกับน้ําฝน ซึ่งส่งผลให้เกิดความไม่สะดวกสบายหลายอย่าง โดยเฉพาะเมื่อฝนตกในปริมาณมากก็อาจทําให้บางพื้นที่เกิดปัญหาน้ำท่วมขังรอระบายรวมถึงต้นไม้ในสวนสวยที่เฝ้าดูแลประคบประหงมมาอย่างดีอาจเกิดความเสียหายเละไม่เป็นท่า การเลือกทำเลบ้านก็มีส่วนช่วยลดปัญหาเหล่านี้ โครงการบ้านเดี่ยวพัทยาของ The Palm เป็นหนึ่งในโครงการที่มีพื้นที่สูง หมดปัญหาน้ำท่วมขังระบายไม่ทัน ด้วยทำเลบ้านบนเนินเขา วิวเมืองพัทยา วันนี้เรามีวิธีดูแลสวนข้างบ้านช่วงฤดูฝนมาฝาก

1. ไม่ปล่อยให้น้ำขังโคนต้นไม้ – หากน้ำขังอยู่ที่โคนต้นไม้หรือที่แปลงต้นไม้ จะทำให้รากเน่า ต้นไม้เฉาตายได้ ฉะนั้น มี 2 เรื่องที่ต้องดูแลคือ ดูแลดิน พรวนดินให้ร่วนซุยเป็นประจำ เพื่อให้ดินไม่เกาะตัวกันแน่นจนอุ้มน้ำ จนน้ำท่วมขังอยู่ในดิน หรือควรปรับผิวดินบริเวณโคนต้น ด้วยการใช้ทรายหยาบหรือขี้เถ้าแกลบมาพรวนผสมกับดิน ให้ดินร่วนขึ้น มีช่องว่างให้น้ำซึมลงได้ลึก ให้น้ำได้ไหลระบายออกจากโคนต้นให้เร็วที่สุด เรื่องที่ 2 ที่ต้องดูแลคือ ดูแลระบบระบายน้ำ ให้ขุดทางระบายน้ำในสวนเพิ่ม หมั่นตรวจดูท่อระบายน้ำกวาดเศษดิน เศษใบไม้ หรือเศษขยะออกไม่ให้อุดตันท่อระบายน้ำ
2. ถอนรากถอนโคนวัชพืช – วัชพืชที่แห้งตายไปแล้วในช่วงที่แดดแรงตอนหน้าร้อน อาจกลับมาเติบโตอีกครั้งตอนหน้าฝนที่ชุ่มฉ่ำได้ และวัชพืชเหล่านั้นก็จะมาแย่งอาหารและแสงแดดของต้นไม้ที่เราเลี้ยง ทำให้ต้นไม้ของเราอ่อนแอ เหี่ยวเฉาลงไปได้ ตลอดจนเป็นแหล่งสะสมเชื้อราและโรคพืชได้อีกด้วย หากเจอวัชพืชขึ้นมาแซมกับต้นไม้ของเราเมื่อไหร่ ให้รีบถอนทิ้งให้หมดทั้งรากทั้งโคน และนำไปทิ้งให้ไกลจากบริเวณสวน เพื่อป้องกันไม่ให้วัชพืชกลับมาเติบโตได้อีก และควรกำจัดทิ้งตั้งแต่ยังมีน้อย ไม่ปล่อยให้วัชพืชลามจนทั่วสวน เพราะจะกำกัดยากและเสียค่าใช้จ่ายสูง
3. ฉีดพ่นยาป้องกันโรคพืชให้สวน – ความชื้นของหน้าฝน ทำให้พวกเชื้อรา เชื้อแบคทีเรียเติบโตและแพร่กระจายได้รวดเร็ว ดอกไม้ ต้นไม้ในสวนก็จะติดโรคได้ง่ายขึ้น จึงควรฉีดพ่นยาป้องกันโรคพืชให้สวนคุณ และควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสม จะได้ไม่เป็นอันตรายต่อทั้งตัวเราและต้นไม้
4. ใส่ปุ๋ยให้ถูกวิธี – ในหน้าฝน ต้นไม้จะได้รับน้ำเต็มที่จากฝน จนทำให้ต้นไม้โตไวอยู่แล้ว อาจไม่จำเป็นต้องใช้ปุ๋ยอีกก็ได้ แต่หากจำเป็นต้องใช้จริง ๆ หรือกลัวว่าต้นไม้จะขาดสารอาหาร เมื่อใส่ปุ๋ยแล้วให้พรวนดินรอบโคนต้นไม้ ปุ๋ยจะได้ลงไปอยู่ในดิน เพื่อไม่ให้น้ำฝนที่ตกลงมาชะล้างปุ๋ยทิ้งไปหมด และแนะนำให้หลีกเลี่ยงปุ๋ยเคมี หันมาใช้ปุ๋ยหมักแทน เพราะหากฝนตก น้ำฝนจะชะล้างปุ๋ยไปตามดิน หากใช้ปุ๋ยเคมี อาจทำให้ไส้เดือนที่ช่วยพรวนดินให้ต้นไม้ และจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์กับต้นไม้ ได้รับสารเคมีที่ชะมากับน้ำและตายได้ ซึ่งจะส่งผลกับดินในอนาคต
5. เตรียมอุปกรณ์ทำสวนไว้ให้พร้อม – หยิบเอาอุปกรณ์ทำสวนออกมาตรวจเช็ค ทำความสะอาดให้พร้อมใช้งาน หน้าฝนอุปกรณ์ทำสวนอาจชื้นหรือเป็นสนิมได้ง่าย ควรหาวิธีดูแลรักษา และหมั่นตรวจสอบให้ดี เช่น อุปกรณ์ทำสวนที่สามารถเป็นสนิมได้ ให้ใช้น้ำมันหล่อลื่นเช็ดเป็นประจำ บัวรถน้ำที่น้ำขังได้ ให้คว่ำเก็บป้องกันยุงเพาะพันธุ์ กระสอบปุ๋ย ควรหาที่เก็บในที่ร่มให้เรียบร้อย เป็นต้น

#บ้านพัทยา #บ้านเดี่ยวพัทยา
อ้างอิง
https://pixabay.com/images/id-6226263/
https://miro.medium.com/max/634/1*YFUPC65Zig_iBol7xINI0g.jpeg
https://www.pinterest.com/pin/599963981600796106/