
15 Feb 5 วิธีฆ่าเชื้อโรคในบ้าน
1. เลือกน้ำยาทำความสะอาดที่ใช้
การเลือกน้ำยาทำความสะอาดในช่วงนี้แนะนำให้เลือกน้ำยาทำความสะอาดที่ ฉลากระบุว่า สามารถ ฆ่าเชื้อโรค ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย หรือฆ่าเชื้อไวรัสได้ และที่สำคัญต้องได้รับการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ด้วยนะครับ เพราะการเช็ดถูแบบโดยปกติทั่วไปอาจจะไม่ได้ประสิทธิภาพมากนัก และไม่ควรเช็ดเฉพาะบริเวณพื้นเท่านั้น พวกอุปกรณ์ที่ทุกคนในบ้านสัมผัสบ่อย ๆ เช่น รีโมทคอนโทรล ที่จับประตู ก๊อกน้ำ สวิทช์ไฟต่าง ๆ โต๊ะ เก้าอี้ ก็จำเป็นต้องทำความสะอาดด้วยน้ำยาทำความสะอาดเช่นกัน โดยน้ำยาทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคนั้นมีให้เลือกหลากหลายประเภท เช่น น้ำยาฆ่าเชื้อโรคในห้องน้ำ น้ำยาฆ่าเชื้อโรคสำหรับเช็ดถูพื้น สเปรย์ฆ่าเชื้อโรค แผ่นเช็ดฆ่าเชื้อโรคสำหรับพื้นผิวต่าง ๆ หรือแม้แต่น้ำยาซักผ้า นอกจากนี้การใช้น้ำยาทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคนั้นหากพื้นผิวที่ต้องการทำความสะอาดสกปรกมาก แนะนำให้ขจัดคราบออกเสียก่อนแล้วใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคเช็ดทำความสะอาดอีกครั้งทันที และไม่แนะนำให้นำน้ำยาฆ่าเชื้อโรคหลาย ๆ ชนิดมาผสมกัน เพราะอาจทำให้ประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคลดลงได้ วิธีฆ่าเชื้อโรคในบ้าน อันนี้ถือว่าเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากครับ
2. เครื่องใช้ไฟฟ้าตัวช่วยเบาแรง แถมฆ่าเชื้อโรค
เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านบางประเภทมีฟังก์ชั่นการใช้งานในการฆ่าเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี ดังนั้นหากจำเป็นต้องเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วงนี้ควรเลือกที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรคได้ เพื่อช่วยให้ทุกคนในบ้านรู้สึกมั่นใจ และสบายใจเมื่อต้องใช้สิ่งของไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ในครัว เสื้อผ้า หรือแม้แต่อากาศที่ต้องสูดเข้าปอดตลอดเวลา อาทิ เครื่องซักอบผ้า บางรุ่นสามารถอบผ้าได้แถมฆ่าเชื้อโรคได้อีกด้วย เครื่องล้างจาน อาจเลือกที่มีมีโปรแกรมล้างแบบ Intensive เพื่อสุขอนามัยที่ดี เครื่องฟอกอากาศที่สามารถฆ่าได้ทั้งเชื้อโรค เชื้อรา ไข้หวัด แถมยังใช้ได้ทั้งในรถและสถานที่ต่างๆ ตู้อบ UV ที่มีการฉายแสง UVC ที่สามารถทำลายเชื้อโรคได้ เป็นต้นครับ
3. เชื้อโรคบนที่นอน สาเหตุของภูมิแพ้ป้องกันได้
ที่นอนเป็นแหล่งสะสมของไรฝุ่น และเชื้อโรคต่างๆ ที่มองไม่เห็น หลายๆ บ้านจึงมองข้ามในการทำความสะอาด เพราะเป็นเรื่องยุ่งยาก จึงมักทำความอาดแต่เพียงผ้าปูที่นอน และปลอกหมอนเท่านั้น แต่จะให้หมดกังวลเรื่องไรฝุ่นซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคภูมิแพ้เลยนั้น การเลือกใช้บริการดูดไรฝุ่นที่นอนก็เป็นตัวช่วยที่ดีให้กับแม่บ้านในยุคสมัยนี้เป็นอย่างนะครับ เพราะนอกจากจะได้เตียงนอนที่สะอาด กำจัดเชื้อโรคแล้ว ยังได้ฟอกอากาศ และฆ่าเชื้อโรคด้วยการอบโอโซนภายในห้อง เพื่อเติมความสดชื่น ลดกลิ่นอับในห้องได้อีกด้วย โดยการดูดไรฝุ่นที่นอนนั้นใช้ระยะเวลาประมาณ 45-60 นาที ก็ช่วยให้เตียงนอนของทุกๆ บ้านเหมือนใหม่แล้วนะครับ
4. เรียกใช้ แม่บ้านทำความสะอาด
ทำงานนอกบ้านว่าเหนื่อยแล้ว กลับบ้านมายังต้องทำงานบ้านให้เหนื่อยทวีคูณเข้าไปอีกสำหรับแม่บ้านยุคใหม่จำเป็นต้องหาผู้ช่วยดี ๆ เพื่อให้บ้านปลอดเชื้อโรค และฝุ่นละอองโดยไม่ต้องเป็นกังวล ด้วยการเรียกใช้บริการแม่บ้านทำความสะอาดเพื่อแบ่งเบาภาระ แต่สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเมื่อเรียกใช้บริการแม่บ้านทำความสะอาดคือ ต้องเลือกแม่บ้านที่ไว้ใจได้ โดยเฉพาะบ้านไหนที่มีผู้สูงวัยอาศัยอยู่ตามลำพัง แม่บ้านควรมีความละเอียดในการทำความสะอาด น้ำยาทำความสะอาดได้มาตรฐาน มีคุณภาพ ไม่อู้งาน หรือทิ้งงาน ในราคาที่จับต้องได้ และยิ่งหากมีการรับประกันความเสียหายระหว่างการทำงานด้วยแล้วละก็จะยิ่งดีมากๆ ครับ
5. บริการฆ่าเชื้อโรค แม่บ้านยุคใหม่ต้องกดไลค์
เพื่อประหยัดเวลาและได้ความสะอาดที่มากขึ้น การเลือกใช้บริการฆ่าเชื้อโรคก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับคุณแม่บ้านในปัจจุบันซึ่งมีให้เลือกใช้บริการอย่างแพร่หลาย เช่น บริการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อบ้านปลอดเชื้อ ซึ่งคุณแม่บ้านทุก ๆ บ้านสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับการบริการที่ได้มาตรฐาน และมีประสิทธิภาพจากเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการ ด้วยเครื่องมือฉีดพ่น รวมถึงน้ำยาฆ่าเชื้อคุณภาพสูง ที่ใช้ในทางการแพทย์ ผ่านการทดสอบและรับรองคุณภาพ จึงไม่มีฤทธิ์กัดกร่อน กัดสี ไม่ส่งผลต่อเฟอร์นิเจอร์และวัสดุภายในบ้าน กลิ่นไม่แรง ไม่มีสารตกค้าง ไม่มีสารก่อมะเร็ง และไม่เป็นอันตรายต่อทุกคนในบ้าน
ข้อมูลอ้างอิง
https://homeguru.homepro.co.th/disinfecting-methods-in-home-for-good-hygiene/
Sorry, the comment form is closed at this time.